วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ผญ๋าเกี้ยวพาราสีทั่วไป(เอาไว้จีบผู้สาวตามเว็บต่างเด้ออ้าย)

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

หัวใจสีแดงฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง ฝันว่าเสาเฮือนเนิ้งไปทางตะวันออกฝันว่าปอกมีดโต้ตกน้ำล่องหนี ฝันว่าธำมะรงเหลื้อมในมือ  กระเด็นแตกเกรงว่านาถเจ้าใจเลี้ยวจากเฮียม

กุหลาบแดงฝันคืนนี้เป็นฝันประหลาด ฝันว่าเสาเรือนเอียงไปทางทิศตะวันออก ฝันว่าปลอกมีดตกน้ำไหล ฝันว่าแหวนเพชรในมือหล่นแตก  เกรงว่าจะเป็นลางร้ายหรือน้องจะจากไป

กุหลาบแดงฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง ฝันว่าช้างเผือกผู้พระอวนเจ้าขึ้นขี่คอเฮียมก็ผันผยองขึ้นเทิงหัวช้างใหญ่ เฮียมกะหนีบ่ได้ ไกลเจ้าคืบวา

กุหลาบแดงฝันคืนนี้ช่างประหลาด ฝันว่ามีช้างเผือกของหนุ่มบ้านอื่นมารับเอาน้องหนีไปไกลลับตา  เว้าชู้ต่างบ้านปานฝากไข่ไว้นำกา ฝากปลาไว้นำแมวฝากแหลวไว้นำไก่น้อย ฝากก้อยไว้นำหมาขี้เฮื้อน มันสิม้ามเมื่อใด

กุหลาบแดงมีคนรักต่างบ้านก็เหมือนฝากไข่ไว้กับกา ฝากปลาไว้กับแมว ฝากเหยี่ยวไว้กับไก่ฝากลาบก้อยไว้กับหมา ไม่รู้มันจะงาบเมื่อไร?

กุหลาบแดงว่าแม่นเสือกินรื้อสังบ่เห็นฮอยลาก ว่าแม่นนาคกินรื้อสังบ่เห็นฮอยแก่ หรือแม่นเงือกปากแหล้ หรือแม่นแข้ปากกว้างเอาเจ้าเข้าเวิ่นวัง

กุหลาบแดงถ้าว่าเสือกินทำไมไม่เห็นรอยลาก ถ้าว่านาคกินทำไมไม่เห็นรอยลาก หรืออาจเป็นเงือกหรือจรเข้เอาน้องไปซ่อนไว้หนใดหนอ

กุหลาบแดงสิบปีกะสิถ้าซาวพรรษากะสิอยู่ คันบ่ได้เป็นคู่เห็นแต่อุแอ่งน้ำกะปานได้นั่งเทียม

กุหลาบแดงสิบปี ยี่สิบปีก็จะรอน้องอยู่ ถึงไม่ได้เคียงคู่น้องมองเห็นแค่ตุ่มใส่น้ำก็เหมือนได้นั่งเคียง

กุหลาบแดงอย่าให้เสียแฮงอ้ายเดินทางหิวหอด คือดั่งม้าอยากน้ำเดือนห้าหอดหิว คันบ่กูร์ณาอ้าย เห็นสิตายม้อยระแหม่ง เห็นสิตาย

กุหลาบแดงหอดแห้งหิวน้ำหอดแฮงอย่าให้เสียแรงที่พี่ต้องดั้นด้นมาหา ได้โปรดกรุณารับไมตรีพี่ไว้อย่าแล้งน้ำใจนักเลย

หัวใจสีแดงพี่สิลาจากน้องกลับต่าวเคหัง ปาสิลาวังเวินเสิ่นไปคือฮุ้ง ทุงสิไลลาผ้า สาหนองสิลาบวก ฮวกสิลาแม่น้ำ นางน้องค่อยอยู่ดี แด่เนอ

กุหลาบแดงพี่ต้องลาจากน้องไปแล้ว เหมือนปลาที่ลาจากน้ำ นกลาจากหนอง ขอให้น้องอยู่สุขสบายดีนะ

พี่นี้บ่มีต้นกล้วยจึงได้เหนี่ยวหาตอง บ่มีสองจิ่งได้มาหาน้อง

กุหลาบแดงพี่นี้ปลอดอ้อยซ้อย เสมออ้อยกลางกอ กาบกะบ่ห่อ หน่อน้อยกะบ่อซอน ชู้บ่ช้อนเมียอ้ายบ่มี

กุหลาบแดงพี่นี้ยังเป็นโสด ไร้คู่ใจเหมือนต้นอ้อยกลางกอ จึงได้มุ่งหมายมารักน้อง

กุหลาบแดงพี่หากใจประสงค์ปล้ำยูงยางไม้ใหญ่ คันแม่นพร้าบ่บ่าน ขวานบ่เป้ ไม้บ่ล้ม อวนอ้ายบ่เซา

กุหลาบแดงพี่นี้ตั้งใจเด็ดเดี่ยวแล้ว (รักน้อง) ว่าจะตัดต้นไม้ใหญ่ แม้นพร้าและขวานไม่บิ่น ไม้ไม่ล้ม (น้องไม่ตกลง) พี่นี้ไม่เลิกลา

กุหลาบแดงนกเขาตู้พรากคู่กะยังขัน กาเวาวอนพรากฮังกะยังฮ้อง น้องพรากอ้ายคำเดียวบ่เอิ้นสั่ง คันบ่เอิ้นสั่งใกล้ขอให้เอิ้นสั่งไกล

กุหลาบแดงนกพรากคู่พรากรังยังร้องเพรียกหา แต่น้องจากพี่ไปไม่มีแม้คำร่ำรา

กุหลาบแดงขันตีตั้งสัจจังหมั้นเที่ยง บ่ได้คึดเบี่ยงเลี้ยวลวงล้อหลอกใผ ปานใดเดสิได้จูงแขนเข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย มือขวาป้อนไข่อ้าย

กุหลาบแดงมือซ้ายป้อนไข่นางพี่นี่ตั้งใจมั่นรักน้องไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ แล้วเมื่อไหร่หนอจะได้จูงมือน้องเข้าสู่หอ (พิธีบายศรีสู่ขวัญงาน

แต่งงานชาวอีสาน จะมีการป้อนไข่ต้มแก่คู่บ่าวสาว ดูรายละเอียดใน ไปเอาบุญบ้านเฮา ประเพณีสูตรขวน)

เด็กหญิงคันบ่แน่บ่ยิง บ่จริงอย่าเว้า บ่เอาบ่ว่า รับฟ้าผ่าห่าตำกะได้ ใจนั้นเที่ยงชัน

ไม่แม่นไม่ยิง ไม่จริงไม่พูด ไม่อยากได้ไม่ขอ ให้ฟ้าผ่าก็ได้ใจพี่นี้มั่นคง (รักน้องจริง ๆ)

เด็กชายข้าขออะธิษฐานตั้งขอฝากพระไมติ์มิตร พันธนังติดหมื่นปีบ่ไลน้อง พี่นี้จงจิตข้องหมายตายเกิดฮ่วม ขออย่าคละคลาดแคล้วคำ

เด็กชายหมั้นขอดสาร น้องเอยขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จะรักน้องจนตายแม้เกิดชาติหน้าหรือชาติไหน ใจพี่ยังมั่นคง นะน้องเอย

เด็กชายใจหนึ่งว่าอยากงมปลาปิ้งกลางทะเลให้เขาซ่า สาเด ใจหนึ่งว่าอยากถมแม่น้ำให้เป็นพื้นแผ่นเดียว

เด็กชายอยากจับปลากลางทะเลมาปิ้งให้คนลือ อยากถมผืนแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน (เพื่อน้องคนเดียว)

เด็กชายใจหนึ่งว่าอยากหย้อแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียว คราวสองคืนสามคืนอยากหย้อเป็นคราวมื้อ

เด็กชายใจอยากจะบีบแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน อยากย่อวันเวลาลงมาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดน้อง (คิดถึงมาก ไม่อยากห่างไกล)

เด็กชายใจประสงค์แล้วเมืองแกวกะดั้นฮอด ใจประสงค์ยอดแก้วในถ้ำกะก่นหา

เมื่อมีใจรักน้องแม้จะอยู่แดนไกลเพียงใด ก็จะติดตามถามหา

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

กุหลาบแดงผญ๋าเกี้ยวพาราสีโต้ตอบหนุ่มสาวหัวใจสีแดง

เด็กชาย(ชาย).... สุขซำบายหมั้นเสมอมันเครือเก่าบ่นอ เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบายถ้วนอยู่สู่คนบ่เด

เด็กหญิง(หญิง) .... น้องนี้ สุขซำบายหมั้น เสมอมันเครือเก่าอยู่ดอกอ้าย เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบาย พร้อมสู่คน

เด็กชาย(ชาย).... อ้ายนี่อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวเถิงปลา ถามข่าวนา อยากถามข่าวเถิงเข้า อ้ายอยากถามข่าวน้องว่ามีผัวแล้วหรือบ่

หรือว่ามีแต่ซู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี

เด็กหญิง(หญิง).... โอนอ อ้ายเอย น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดั่งตองตัด พัดแต่เป็นหญิงมาบ่มี ซายสิมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้นบ่มี

เครือสิเกี้ยวพุ่ม พผัดแต่เป็นตุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี

เด็กชาย(ชาย).... น้องอย่ามาติแถลงเว้า เอาเลามาปลูก บ่แหม่นเซื้อซาติอ้อยกินได้กะบ่หวาน

เด็กหญิง(หญิง).... คันบ่จริงน้องบ่เว้า คันบ่เอาน้องบ่หว่า คันบ่แม่นท่า น้องบ่ไล่ควายลง ตีลงแล้ว ถอยคืนมันสิยาก มันสิลำบากน้องเทียวหยุ่งอยู่บ่เซา

เด็กชาย(ชาย).... อ้ายนี่เป็นดังอาซาไนม้า เดินทางหิวหอด มาพ้อน้ำส้างแล้วในถ้ำกะส่องดาย กลายไปแล้ว ผัดคืนมาก้มส่อง อยากกินกะกินบ่ได้

เลียลิ้นอยู่เปล่าดาย

เด็กหญิง(หญิง).... น้องนี้เป็นดังเฮือคาแก้ง เสาประดงคุงหาด หาผู้คึดซ่อยแก้ ให้หายฮ้อนกะบ่ม

                                                           คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

                                                           หัวใจสีแดงหัวใจสีแดงหัวใจสีแดง

เกิดแต่ดนหลายปี บ่ทันมีผู้ยิ้มใส่

มาแห็นสาวผู้ไทย ยิ้มเป้ยหัวหยุ้มทักทาย

หัวใจชายสังมาเสี้ยว ลดเลี้ยวไปเป็นลายต่าง

ลุกย่าง งวกพุ้นพี้ บ่มีหม่องเสี่ยงหัวใจ

ว่าแหม่นบ่าวส่ำน้อย กล้าเก่งคะนองศึก

สาวเว้านำแฮ้งคึก ฮึกเหิมปานผีบ้า

ยินเสียงวาจาต้าน สาวผู้ไทยผั่นแฮงหม่วน

อยากชวนเมือยามบ้าน ไปให้อีแม่แยงเด๊..นอหล่าเอ๊ย

อ้ายนี่มีใจเดียว แต่โรเนียวได้หลายเทือ

หว่านควมฮักเอื้อเฟื้อ ฝากไว้ขู่ซุคน

?ในอกอ้ายฮนฮ้อน คะนิงหาอุกอั่ง

ลุกยืนนั่งบ่เป็นสุข ระทมทุกข์แลงเช้า

คึดฮอดเจ้าน้องหล่า หน้าขาวมาเปิ่นเหวิ่น

เห็นผู้อื่นหลงเอิ้น คึดว่าเจ้ามาหา?

?นกเขาตู้พรากคู่กะยังขัน กาเวาวอนจากกันกะยังฮ้อง

น้องพรากอ้าย ควมเดียวบ่เอิ้นสั่ง

คันบ่เอิ้นสั่งใกล้ สังบ่เอิ้นสั่งไกล"..นางเอย

สาวผู้ไทยอย่าใจส้ม ไปหลงคารมชายอื่น..เด้อนาง

ให้คึดฮอดอ้ายบ้าง ผู้คองถ้าเจ้าต่าวมา

                                                        กุหลาบแดงกุหลาบแดงกุหลาบแดงกุหลาบแดง

เด็กชายฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง ฝันว่าเสาเฮือนเนิ้งไปทางตะวันออกฝันว่าปอกมีดโต้ตกน้ำล่องหนี ฝันว่าธำมะรงเหลื้อมในมือ  กระเด็นแตกเกรงว่านาถเจ้าใจเลี้ยวจากเฮียม

เด็กชายฝันคืนนี้เป็นฝันประหลาด ฝันว่าเสาเรือนเอียงไปทางทิศตะวันออก ฝันว่าปลอกมีดตกน้ำไหล ฝันว่าแหวนเพชรในมือหล่นแตก   เกรงว่าจะเป็นลางร้ายหรือน้องจะจากไป

เด็กชายฝันคืนนี้ฝันเป็นประหลาดต่าง ฝันว่าช้างเผือกผู้พระอวนเจ้าขึ้นขี่คอเฮียมก็ผันผยองขึ้นเทิงหัวช้างใหญ่ เฮียมกะหนีบ่ได้ ไกลเจ้าคืบวา

เด็กชายฝันคืนนี้ช่างประหลาด ฝันว่ามีช้างเผือกของหนุ่มบ้านอื่นมารับเอาน้องหนีไปไกลลับตา

เด็กชายเว้าชู้ต่างบ้านปานฝากไข่ไว้นำกา ฝากปลาไว้นำแมวฝากแหลวไว้นำไก่น้อย ฝากก้อยไว้นำหมาขี้เฮื้อน มันสิม้ามเมื่อใด

กุหลาบแดงมีคนรักต่างบ้านก็เหมือนฝากไข่ไว้กับกา ฝากปลาไว้กับแมว ฝากเหยี่ยวไว้กับไก่ฝากลาบก้อยไว้กับหมา ไม่รู้มันจะงาบเมื่อไร?

กุหลาบแดงว่าแม่นเสือกินรื้อสังบ่เห็นฮอยลาก ว่าแม่นนาคกินรื้อสังบ่เห็นฮอยแก่ หรือแม่นเงือกปากแหล้ หรือแม่นแข้ปากกว้างเอาเจ้าเข้าเวิ่นวัง

หัวใจสีแดงถ้าว่าเสือกินทำไมไม่เห็นรอยลาก ถ้าว่านาคกินทำไมไม่เห็นรอยลาก หรืออาจเป็นเงือกหรือจรเข้เอาน้องไปซ่อนไว้หนใดหนอ

หัวใจสีแดงสิบปีกะสิถ้าซาวพรรษากะสิอยู่ คันบ่ได้เป็นคู่เห็นแต่อุแอ่งน้ำกะปานได้นั่งเทียม

กุหลาบแดงสิบปี ยี่สิบปีก็จะรอน้องอยู่ ถึงไม่ได้เคียงคู่น้องมองเห็นแค่ตุ่มใส่น้ำก็เหมือนได้นั่งเคียง

หัวใจสีแดงอย่าให้เสียแฮงอ้ายเดินทางหิวหอด คือดั่งม้าอยากน้ำเดือนห้าหอดหิว คันบ่กูร์ณาอ้าย เห็นสิตายม้อยระแหม่ง เห็นสิตาย  หอดแห้งหิวน้ำหอดแฮงอย่าให้เสียแรงที่พี่ต้องดั้นด้นมาหา ได้โปรดกรุณารับไมตรีพี่ไว้อย่าแล้งน้ำใจนักเลย

เด็กชายพี่สิลาจากน้องกลับต่าวเคหัง ปาสิลาวังเวินเสิ่นไปคือฮุ้ง ทุงสิไลลาผ้า สาหนองสิลาบวก ฮวกสิลาแม่น้ำ นางน้องค่อยอยู่ดี แด่เนอ

เด็กชายพี่ต้องลาจากน้องไปแล้ว เหมือนปลาที่ลาจากน้ำ นกลาจากหนอง ขอให้น้องอยู่สุขสบายดีนะ

เด็กชายพี่นี้บ่มีต้นกล้วยจึงได้เหนี่ยวหาตอง บ่มีสองจิ่งได้มาหาน้อง   พี่นี้ปลอดอ้อยซ้อย เสมออ้อยกลางกอ กาบกะบ่ห่อ หน่อน้อยกะบ่อซอน ชู้บ่ช้อนเมียอ้ายบ่มี   พี่นี้ยังเป็นโสด ไร้คู่ใจเหมือนต้นอ้อยกลางกอ จึงได้มุ่งหมายมารักน้อง   พี่หากใจประสงค์ปล้ำยูงยางไม้ใหญ่ คันแม่นพร้าบ่บ่าน ขวานบ่เป้ ไม้บ่ล้ม อวนอ้ายบ่เซา

เด็กชายพี่นี้ตั้งใจเด็ดเดี่ยวแล้ว (รักน้อง) ว่าจะตัดต้นไม้ใหญ่ แม้นพร้าและขวานไม่บิ่น ไม้ไม่ล้ม (น้องไม่ตกลง) พี่นี้ไม่เลิกลา   นกเขาตู้พรากคู่กะยังขัน กาเวาวอนพรากฮังกะยังฮ้อง น้องพรากอ้ายคำเดียวบ่เอิ้นสั่ง คันบ่เอิ้นสั่งใกล้ขอให้เอิ้นสั่งไกล

เด็กชายนกพรากคู่พรากรังยังร้องเพรียกหา แต่น้องจากพี่ไปไม่มีแม้คำร่ำรา

เด็กชายขันตีตั้งสัจจังหมั้นเที่ยง บ่ได้คึดเบี่ยงเลี้ยวลวงล้อหลอกใผ ปานใดเดสิได้จูงแขนเข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย มือขวาป้อนไข่อ้าย

เด็กชายมือซ้ายป้อนไข่นางพี่นี่ตั้งใจมั่นรักน้องไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ แล้วเมื่อไหร่หนอจะได้จูงมือน้องเข้าสู่หอ (พิธีบายศรีสู่ขวัญงาน

เด็กชายแต่งงานชาวอีสาน จะมีการป้อนไข่ต้มแก่คู่บ่าวสาว ดูรายละเอียดใน ไปเอาบุญบ้านเฮา ประเพณีสูตรขวน)คันบ่แน่บ่ยิง บ่จริงอย่าเว้า บ่เอาบ่ว่า รับฟ้าผ่าห่าตำกะได้ ใจนั้นเที่ยงชันไม่แม่นไม่ยิง ไม่จริงไม่พูด ไม่อยากได้ไม่ขอ ให้ฟ้าผ่าก็ได้ใจพี่นี้มั่นคง (รักน้องจริง ๆ)

หัวใจสีแดงข้าขออะธิษฐานตั้งขอฝากพระไมติ์มิตร พันธนังติดหมื่นปีบ่ไลน้อง พี่นี้จงจิตข้องหมายตายเกิดฮ่วม ขออย่าคละคลาดแคล้วคำ

หัวใจสีแดงหมั้นขอดสาร น้องเอยขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จะรักน้องจนตายแม้เกิดชาติหน้าหรือชาติไหน ใจพี่ยังมั่นคง นะน้องเอย

หัวใจสีแดงใจหนึ่งว่าอยากงมปลาปิ้งกลางทะเลให้เขาซ่า สาเด ใจหนึ่งว่าอยากถมแม่น้ำให้เป็นพื้นแผ่นเดียว

อยากจับปลากลางทะเลมาปิ้งให้คนลือ อยากถมผืนแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน (เพื่อน้องคนเดียว)

หัวใจสีแดงใจหนึ่งว่าอยากหย้อแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียว คราวสองคืนสามคืนอยากหย้อเป็นคราวมื้อ

ใจอยากจะบีบแม่น้ำให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน อยากย่อวันเวลาลงมาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดน้อง (คิดถึงมาก ไม่อยากห่างไกล)

หัวใจสีแดงใจประสงค์แล้วเมืองแกวกะดั้นฮอด ใจประสงค์ยอดแก้วในถ้ำกะก่นหา

เมื่อมีใจรักน้องแม้จะอยู่แดนไกลเพียงใด ก็จะติดตามถามหา

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

เด็กชาย(ชาย) .... สุขซำบายหมั้นเสมอมันเครือเก่าบ่นอ เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบายถ้วนอยู่สู่คนบ่เด

เด็กหญิง(หญิง) .... น้องนี้ สุขซำบายหมั้น เสมอมันเครือเก่าอยู่ดอกอ้าย เทิงพ่อแม่พี่น้องซำบาย พร้อมสู่คน

เด็กชาย(ชาย) .... อ้ายนี่อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวเถิงปลา ถามข่าวนา อยากถามข่าวเถิงเข้า อ้ายอยากถามข่าวน้องว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ซู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี

เด็กหญิง(หญิง) .... โอนอ อ้ายเอย น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดั่งตองตัด พัดแต่เป็นหญิงมาบ่มี ซายสิมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้นบ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม พผัดแต่เป็นตุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี

เด็กชาย(ชาย) .... น้องอย่ามาติแถลงเว้า เอาเลามาปลูก บ่แหม่นเซื้อซาติอ้อยกินได้กะบ่หวาน

เด็กหญิง(หญิง) .... คันบ่จริงน้องบ่เว้า คันบ่เอาน้องบ่หว่า คันบ่แม่นท่า น้องบ่ไล่ควายลง ตีลงแล้ว ถอยคืนมันสิยาก มันสิลำบากน้องเทียวหยุ่งอยู่บ่เซา

เด็กชาย(ชาย) .... อ้ายนี่เป็นดังอาซาไนม้า เดินทางหิวหอด มาพ้อน้ำส้างแล้วในถ้ำกะส่องดาย กลายไปแล้ว ผัดคืนมาก้มส่อง อยากกินกะกินบ่ได้ เลียลิ้นอยู่เปล่าดาย

เด็กหญิง(หญิง) .... น้องนี้เป็นดังเฮือคาแก้ง เสาประดงคุงหาด หาผู้คึดซ่อยแก้ ให้หายฮ้อนกะบ่มี

ไขกะไขมาถ้อนไขแปวป้านเป่ง คันบ่ไขเป่งท้างทางนั้นสิขาดเขินคำปากเจ้าบอกว่าไหลไหล หัวใจเจ้าบอกว่าเลี้ยวเลี้ยว  เจ้าหากฝังเกี่ยวไว้ในหั้นหมื่นดวง บ่ฮู้   คองกินน้องช้างสามปีขี้บ่ออก คองเอาลูกพระเจ้าเลยสิเถ้าแก่ตาย  คองกินน้องช้างสามปีขี้บ่ออก ออกแต่ขี้กำพร้าสามก้อนท่อศาลา   คราวเมื่อเว้าหมายสิเอามาจี่ บาดว่ามาฮอดแล้วสังบ่ปิ้งจี่กิน   คราวเมื่อเว้าแต่กี้ว่าสิตบแผ่นแป้นแปนมือให้นางนั่ง

บาดว่ามาฮอดแล้วจำให้นั่งหนาม  อ้ายบ่... อยากลาจาก... ปลาสิไลลาน้ำคำเอยสิเอิ้นสั่ง

คำสิไกลสายสร้อยกลอยมันสิลาป่า    ปูปลาสิลาน้ำเข้าก่ำสิลาหนอง

หนองสิลาน้ำนาทามสิลาท่ง      นับมื้อไกลกันแล้วหัวเฮือสิลาฝั่ง

หมากข่างไกลหมากกลิ้งซิงสิไห้ต่อนกทา     ดวนดันหอมสิห่างกอไกลต้น

ฮวกสิลาแม่น้ำนางน้อยค่อยอยู่ดี      ด้งสิลาม้อนสวนมอนสิลาจ่อ

สีสิลาหน้า บาทาสิลาเกิบ      นอสิลาช้าง เสือสางสิลาป่า

ทวนสิลาหญ้าฝาเฮือนทังดวด ชั่งสิไกลลูกโต้นคนสิไห้แอ่วนำ

หมาสิลาเข้าปั้นกระสันให้แอ่วนำ    บัวทองสิลาบึงบ่าวพี่ชายสิลาน้อง

ผมป่งลากระโด้นหวีสิซันบ่อนใด     ดอกสมั่งลาจากต้นฟานเอยสิลาหน่าง

กาสิไลไก่น้อยอ้อยสิห่างฮามสวน    ฝนสิลาฟ้าปูปลาสิลาบวก

ปลีสิลากล้วยควายบักเลสิลาท่ง    ปอสิลาเชือกอ้อง ควายนั้นค่อยอยู่ดี

เสิบสิลาปี่แอ้ แคนไค้ขลุ่ยซอ       สาสิลาหญ้ากวยยาสิลาข้วน

ติบนวดลากะเช้าบอกปูนนั้นค่อยอยู่ดี

0 ความคิดเห็น:





กำเนิดโยคะ [ Origins of YOGA ]


โยคะ เกิดขึ้นที่อินเดียเมื่อประมาณ 4 - 5 พันปีที่ผ่านมา เดิมจะเป็นการฝึกเฉพาะโยคีและชนชั้นวรรณะพราหมณ์
เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วย ต่อมาโยคะได้พัฒนาผ่านลัทธิฮินดู มายุคพุทธศาสนา ถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน
โดยแท้จริงแล้ว โยคะไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นศาสตร์สากลที่ศาสนาต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่ง
ในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้น ๆ โยคะจึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ หะฐะโยคะ( Hatha Yoga )
ซึ่งจัดว่าเป็น Modern Yoga ที่พัฒนามาจากการรวมแบบโยคะดั้งเดิม กับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา



ความหมายของโยคะ [ Meaning Of YOGA ]

โยคะ หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหารร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วยบรรเทาและบำบัดโรคได้
หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี



โยคะท่าพื้นฐาน

ท่านมัสการ




ความหมาย


• นมัสการ หมายถึง ทำความเคารพ



วิธีปฏิบัติ


• ยืนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เท้าชิด พนมมือ

• หายใจเช้าและยกแขนขึ้น ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหลัง ยื่นแขนเหนือศีรษะ

• หายใจออกช้าๆ เอนตัวไปข้างหน้า ให้มือที่พนมอยู่สัมผัสพื้นจนกระ ทั่งมืออยู่ในแนวเดียวกับเท้าศีรษะสัมผัสหัวเข่า

• หายใจเข้า ก้าวเท้าขวาถอยหลังมา 1 ก้าว ให้มือและเท้า ยังคงอยู่กับพื้น เท้าซ้ายอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• ขณะหายใจออก ยกเท้าซ้ายเข้ามาชิดเท้าขวา แขนตรงยกสะโพกขึ้นให้ศีรษะ และแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ทำท่าเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าและค่อยๆ ลดสะโพกลงมาที่พื้น (ให้สะโพกอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย) ก้มตัวลงไปข้างหลังให้มากที่สุด

• หายใจออก และลดตัวลงมาที่เท้า เข่า มือ และอก สัมผัสพื้น

• หายใจเข้า และค่อยๆยกศีรษะขึ้น เงยศีรษะไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด และโค้งกระดูกสันหลังไปให้ได้มากที่สุด เหมือนท่านาคอาสนะ

• ขณะหายใจออกช้าๆ และให้แขนอาสนะ ยกสะโพกขึ้น และให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับแขน ทำเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าช้าๆ และงอเข่าซ้าย ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มือยังคงอยู่ที่พื้น วางเท้าซ้ายลงบนพื้นระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• หายใจออกช้าๆ ให้มืออยู่ที่เดิม ดึงเท้าทั้งสองเข้ามาชิดกัน ให้อยู่แนวเดียวกับมือถ้าเป็นไปได้ ให้ศีรษะสัมพันธ์กับหัวเข่า

• หายใจเข้าช้าๆ และยกแขนขึ้น ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลัง โดยยื่นแขนขึ้นเหนือศีรษะ ย้อนกลับไปตำแหน่งยังข้อ 1



ท่าชวังคอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต ชว หมายถึง ทั้งหมด หรือ ทุกๆ อังคะ หมายถึง ร่างกาย ชวังคะ จึงหมายถึง ทำทั้งร่างกาย

ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นท่าที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทุกส่วน ท่านี้มักเรียกกันว่า ท่ายืนบนไหล่

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงายในท่า ศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำลงบนพื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้นขณะงอเข่าและดึงเข่าเข้ามาที่ท้อง หายใจออก

• หายใจเข้าช้าๆ กดฝ่ามือลง ยกลำตัวตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นจากพื้น งอกระดูกสันหลังไปข้างหลัง และทำท่อนแขนให้ตรง ให้สะโพกอยู่บนพื้น

• หายใจเข้าแล้วในขณะหายใจออก ให้ยกขาตั้งฉากกับพื้น อาจใช้มือพยุงสะโพกไว้ หรือวางแขนไว้ลงกับพื้นตามถนัด

• ขาดชิด เข่าตรง นิ้วเท้าชี้ขึ้น ศีรษะตรงไม่หันไปด้านใดด้านหนึ่ง เก็บคางให้ชนหน้าอก

• หายใจเข้า ออก ช้าๆ ขณะคงท่านี้ไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 6 จนกลับสู่ท่าศพอาสนะ



ท่าตรีโกณอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตหมายถึง สาม โกณ หมายถึง เหลี่ยมหรือมุม

ดังนั้น ท่านี้จึงเรียกว่า ท่าสามมุม หรือท่าสามเหลี่ยม

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว

• แยกเท้าออกจากกัน ให้ระยะห่างมากกว่าหนึ่งช่วงไหล่เล็กน้อย

• หายใจเข้าและยื่นแขนทั้งสองข้างออกให้ขนานกับพื้น ฝ่ามือคว่ำลง

• หายใจออกช้าๆ หันลำตัวไปทางซ้าย งอตัวที่ช่วงเอว ให้มือขวาลงไปที่แข้งซ้าย ฝ่ามือขวา วางไว้ข้างนอกของหน้าแข้งซ้าย

แขนซ้ายควรยื่นออกไปด้านบนขาและแขนทั้งสองข้างตรง โดยไม่ต้องงอเข่าและข้อศอก


• หันศีรษะขึ้นไปทางซ้าย มองไปที่ปลายนิ้วมือซ้าย หายใจเข้า และกลับไปสู่ท่าเดิม คือท่ายืน ให้แขนกางออก

• คงท่านี้ไว้ เท่ากับช่วงหายใจออก หายใจออกและทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 4-7 สลับซ้าย



ศีรษะอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ศีรษะ หมายถึง หัว ในภาษาสันสกฤต ท่านี้คือ ท่ายืนด้วยศีรษะ ซึ่งได้รับความนิยมมากในการฝึกอาสนะ ไม่แพ้ท่าปทมอาสนะ

ด้านบนคือภาพโมกุลในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นภาพโยคีขณะทำท่าศีรษะอาสนะ

วิธีปฏิบัติ


• นั่งคุกเข่า ให้สะโพกอยู่บนส้นเท้า

• เอนตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนพื้น ให้ศอกห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ประสานนิ้วมือเข้าไว้ด้วยกัน

• วางศีรษะลงบนพื้น ให้ท้ายทอยสัมผัสมือที่ประสานไว้

• ให้ปลายเท้าจิกพื้น ขณะยกส้นเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น

• คงท่านี้ไว้เป็นระยะเท่ากับการหายใจเข้า ถ้าไม่สามารถกลั้นหายใจได้ ให้ค่อยๆ หายใจออก และนอนราบกับพื้น กางขาออก กลับไปสู่ท่าศพอาสนะ



หลอาสนะ



ความหมาย

• หล แปลว่า คันไถ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย แบบท่าศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำที่พื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้น งอเข่าเข้ามาจรดท้องขณะหายใจออก

• หายใจเข้า ขณะหายใจออกให้ยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น คุณอาจใช้มือพยุงสะโพก หรือวางแขนราบไปกับพื้นแล้วแต่ถนัด

• หายใจออก แล้วยกขาขึ้นเหนือศีรษะ งอขาตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ยกหลังและสะโพก จนนิ้วเท้าสัมผัสพื้นด้านหลังของศีรษะ รักษาเท้าให้ชิดกัน

หากใช้มือพยุงหลังให้ลองวางแขนราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง ถ้าไม่สามารถวางแขนลงที่พื้นได้ให้ใช้มือพยุงหลังส่วนล่างไว้


• เข่าตรง หายใจช้าๆ และคงท่านี้ไว้สักครู่ ถ้านิ้วเท้าสัมผัสพื้นไม่ได้ ก็พยายามให้นิ้วเท้าอยู่ต่ำที่สุด

• ทำท่าย้อนกลับตั้งแต่ข้อ 5 ถึง 1 จนกลับไปสู่ท่าศพอาสนะเหมือนเดิม




ธนูอาสนะ




ความหมาย

• คำว่าธนู ในภาษสันสกฤต หมายถึง มีรูปร่างเหมือนคันศร โค้ง หรือ งอ คันศร

ในที่นี้หมายถึง คันศรที่ใช้กับลูกธนู ท่าอาสนะนี้ มีชื่อแบบนี้เนื่องจาก ร่างกายมีท่าทางคล้ายคันศรที่โก่งพร้อมยิงธนู

วิธีปฏิบัติ


• นอนคว่ำหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง แขนราบไปกับลำตัว หงายฝ่ามือขึ้น

• หันหน้ามาเพื่อวางคางไว้บนพื้น หายใจออก งอเข่า เอื้อมแขนไปข้างหลัง จับข้อเท้าขวาไว้ด้วยมือขวา จับข้อเท้าซ้ายด้วยมือซ้าย

• ขณะหายใจเข้า ค่อยๆ ยกขาขึ้นโดยดึงข้อเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น และยกอกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน

กลั้นลมหายใจเข้าเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้าท้อง


• ยื่นศีรษะให้ไกลที่สุด คงท่านี้ไว้ขณะกลั้นหายใจ

• หายใจออกช้าๆ วางเข่าลงบนพื้น ปล่อยข้อเท้า ค่อยๆ วางขาและแขนลงบนพื้น หันหน้าไปข้างหนึ่ง ทำเหมือนท่าเริ่มต้น



ท่าพิจิกอาสนะ



ความหมาย

• ท่าพิจิกหรือท่าแมงป่อง ในท่านี้ ร่างกายจะดูเหมือนแมลงป่อง ที่ยกหางโค้งขึ้นเหนือหัว พร้อมจะต่อยคู่ต่อสู้

แม้ท่านี้จะดูยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก

วิธีปฏิบัติ


• คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้า วางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่

• ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด

• ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง

• หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้ ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ

• ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 5 จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า

* ข้อควรระวัง ไม่ควรลองท่าแมงป่อง จนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกายอื่นๆ และไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน



ท่าพฤกษอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต พฤกษะหมายถึง ต้นไม้ ท่านี้จึงเรียกว่าท่าต้นไม้

"ยืนตรงบนขาซ้าย งอขาขวาและวางขาขวาไว้บนโคนขาซ้าย ยืนเหมือนต้นไม้ ยืนอยู่บนพื้นดิน นี่คือท่าพฤกษอาสนะ"

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว

• งอเข่าขวา ยกต้นขาขวา และยก ส้นเท้าขวาไปบนต้นขาซ้ายด้าน ในให้โกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

• ทรงตัว บนเท้าซ้าย ยกแขนทั้งสอง ข้างขึ้นเหนือศีรษะ อย่าให้ข้อศอกงอ และให้ฝ่ามือประชิดกัน

คงท่านี้ไว้ขณะค่อยๆ หายใจ ประมาณ 10 ช่วงหายใจเข้าออก


• ลดแขนและขาขวาลง และกลับไปสู่ตำแหน่งในข้อ 1 คือการยืนหน้าชิด แขนแนบลำตัว หยุดพักสักครู่ และทำซ้ำด้วยขาข้างหนึ่ง



ศพอาสนะ



ความหมาย

• ความหมาย คำว่า ศพ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ร่างที่ตายไปแล้ว

"การนอนลงที่พื้นเหมือนศพ เรียกว่า ศพอาสนะ ช่วยกำจัดความเหนื่อยล้าและให้จิตใจได้พักผ่อน" จากหัตถโยคะปฏิบัติ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย อย่าให้ขาแตะกัน แขนราบไปกับลำตัว ฝ่ามือหงายขึ้น

• หลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

• งอข้อศอก วางฝ่ามือบนพื้นใต้ไหล่ ให้นิ้วชี้ไปด้านหลัง

• มุ่งความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย จากหัวถึงเท้า แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายทีละส่วน

• คงท่านี้ไว้ 10-15 นาที หากรู้สึกง่วงนอนขณะทำท่านี้ ให้หายใจเร็วและลึกขึ้น

• ครั้งแรกที่ฝึก ให้คงท่าศพอาสนะไว้ 10 หรือ 15 นาที กลับมาทำซ้ำเป็นระยะๆ ในช่วงฝึกท่าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นร่างกาย / จิตใจ

คำแนะนำ

บางคนคิดว่าท่านี้ง่ายมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น จุดประสงค์ของศพอาสนะ คือ ให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

นอกจากร่างกายจะต้องนิ่งและผ่อนคลายแล้ว จิตใจยังต้องนิ่งราวกับผิวน้ำที่ปราศจากการรบกวนอีกด้วย

ผลที่ได้คือการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกและนิ่ง อันจะส่งผลให้เกิดสมาธิต่อไป

การฝึกศพอาสนะนั้นต้องใช้เวลา การกำหนดความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนและ กำหนดลมหายใจล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการฝึกท่านี้อย่างยิ่ง

อุปสรรค 2 อย่างที่อาจลดคุณค่าการฝึกศพอาสนะ ก็คือ ความง่วงและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน หากรู้สึกง่วงขณะฝึก ให้กำหนดลมหายใจให้ลึกขึ้น

หากจิตใจไม่นิ่ง ให้มุ่งความสนใจไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กำหนดจิตไปที่พื้นหรือที่จังหวะลมหายใจของคุณเอง

การฝึกศพอาสนะควรทำก่อนและหลังการฝึกอาสนะเป็นประจำ


ข้อมูลจาก
Practice 01





------------------------------------------------------------------------------

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons