ฮีตใภ้คองเขย
คำว่า “ใภ้”หมายถึงลูกสะใภ้รวมถึงหลานสะใภ้ ส่วน “เขย” หมายถึงลูกเขยรวมทั้งหลานเขยด้วย แต่ตามปรกติหมายเอาเพียงลูกสะใภ้แบลูเขย ตามธรรมเนียมชาวอีสานนิยมเอาลูกเขยมาอยู่บ้านพ่อตาแม่ยาย คำภาษิตของภาคอีสาที่ว่า “เอาลูกเขยมาเลี้ยงพ่อแม่เฒ่า ปานเอาข้าวมาใส่เยี่ย” หมายความว่าการเอาลูกเขยมาอยู่กับพ่อตาแม่ยายอุปมาดังนำข้าวมาไว้ในยุ้งฉาง ภาษิตนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่าการเอาลูกเขยมาเลี้ยงพ่อแม่เป็นสิ่งที่เหมาะสมและมักเป็นค่านิยมของชาวอีสานไม่น้อยเลย ส่วนการนำเอาลูกสะใภ้มาอยู่กับปู่ย่านั้นกลับไม่ค่อยนิยมเพราะ พ่อแม่ของฝ่ายสามีมักจะมีเรื่องทะเลาะกับลูกสะใภ้ ดังคำกล่าวที่ว่า “เอาลูกสะใภ้มาเลี้ยงย่า ปานเอาห่ามาใส่เฮือนซาน” หรือ “เอาย่าไปอยู่กับลูกสะใภ้ ปานเอาไข้ไปใส่เฮือน” ก็เหมือนกันกับสมัยครั้งพุทธกาลที่ลูกๆต้องทิ้งพ่อแม่ของตนเพราะฟังความฝ่ายภรรยาตนเองมากพระพุทธเจ้าจึงต้องสอนวิธีการให้พราหมณ์เอาชนะลูกๆของตนเองมาแล้วหรือประวัติของตนโมคคัลลานะก็เช่นเดียวกันฟังความเมียก็เลยเสียพ่อแม่ จะด้วยอิทธิพลของวรรณกรรมเหล่านี้ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ชาวอีสานไม่นิยมนำลูกสะใภ้ไปอยู่กับปู่ย่า แต่ยุคสมัยผ่านไปอาจจะมีน้อยหรือไม่มีถ้าหากลูกสะใภ้ที่ดีย่อมทำตนให้เข้ากับพ่อแม่ของฝ่ายชายได้ด้วยความราบรื่น เช่นเดียวกับลูกเขยที่อยู่กับพ่อตาแม่ยาย แต่ถ้ามีลูกสะใภ้ดีก็จะเป็นเช่นอย่างท่านมิคารมารดาพ่อตาของนางวิสาขามหาอุบาสิกาก็ได้ ที่ลูกสะใภ้นำกลับมาสู่สัมมาทิฏฐิได้ ทั้งลูกเขยและลูกสะใภ้ก็ตามถ้าปฏิบัติตามครรลองของตนย่อมผ่อนหนักเป็นเบาได้คือ มีความเคารพปู่ย่า เลี้ยงดูปู่ย่าด้วยดีดุจท่านเป็นพ่อแม่ของตนเองปัญหาต่างๆก็ย่อมไม่ตามมาอย่างแน่นอน แต่เมื่อใดทั้งสะใภ้และเขยต่างก็เมยเฉยต่อวัตรปฏิบัติของตนเองนั้นแหละปัญหาย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทำอย่างไรจึงจะทำให้ท่านทั้งสองฝ่ายมีความรักและเอ็นดูตนนั้นคำสอนโบราณอีสานสอนไว้อย่างนี้ว่า
วัตรปฏิบัติของสะใภ้
คันว่านางมีผัวแล้ว อย่าลืมคุณพ่อแม่
คุณเพิ่นมีมากล้น เพียรเลี้ยงให้ใหญ่มา
มารดาฮ้ายให้นาง อดทนอย่าเคียดต่อ
คุณพ่อฮ้าย ให้นางน้อยอย่าติง
คันว่าผัวฮ้าย ให้เอาดีสู้ใส่
ปู่ย่าฮ้ายให้นาง ก้มหมอบฟัง
ทั้งฝ่ายพุ้นฝ่ายพี้ ใจนั้นพร่ำเสมอ
เถิงยามเดือนห้า กาลฤดูปีใหม่
จัดหาดอกไม้ เทียนพร้อมใส่ขัน
ไปวันทาไหว้ ตายายปู่ย่า
ทั้งสมมาเฒ่าแก่ใน หมู่บ้านซู่คนได้ยิ่งดีเจ้าเอย
วัตรปฏิบัติของลูกเขย
อันหนึ่งแนวเป็นเขยนี้ แนวนามเชื้อตายายพ่อแม่
ควรซินบน้อมไหว้ ยอไว้ที่สูง
ผลบุญตามมาค้ำ แนนนำยู้ส่ง
ปรารถนาอันใด ซิลุลาภได้โดยด้ามดั่งประสงค์
เฮาเป็นเขยเขานั้น ควรมีใจฮักห่อ
ฝูงพ่อแม่ชาติเชื้อ ของเมียเจ้าทั่วกัน
มีหญิงให้ฮู้จักปันแบ่งให้ ใจเหลื่อมทางดี
มีงานการซ่อยกัน ฮีบไวบ่มีช้า
ซิไปมาก้ำทางใด ให้เจ้าคอบ
เวนมอบให้ เมียไว้แก่พ่อตา
ทั้งแม่ยายพร้อม เจรจาเว้าม่วน
ควรบ่ควรให้เจ้า คะนิงฮู้ซู่แนว เจ้าเอย
๘) ฮีตป้าคลองลุง
บรรดาป้าลุง น้า อา และพี่ นับเป็นญาติชั้นสูงอาวุโส ควรรู้วางตนให้สมกับเป็นที่เคารพนับถือของลูกหลานและญาติพี่น้อง มีเมตตาธรรมไม่ถือตัวโอ้อวดมีอะไรก็ช่วยสงเคราะห์เป็นที่พึ่งพาอาศัยของญาติพี่น้องลูกหลานได้ หากลูกหลานและญาติพี่น้องถูกใคร่รังแกก็อาศัยเป็นที่พึ่งพากันในยามทุกข์ยากได้ ดังคำโบราณว่า
ฝูงเฮาผู้เป็นลุงป้า อาวอาน้าพี่
ให้มีใจฮักพี่น้อง วงศ์เชื้อลูกหลาน
คนใดมีทุกข์ฮ้อน อ้อนแอ่วมาหา
ซ่อยอาสาเป่าปัด ให้ส่วงคลายหายเศร้า
การครองย้าว เอาศีลธรรมเป็นที่เพิ่ง
ตามเปิงฮีตบ้าน ปางเค้าเก่ามา
ไผมีงานหนักหนาให้ หาทางซดซ่อย
บรรดาลูกหลานส่ำน้อย ดีใจล้ำอุ่นทรวงฯ
๙) ฮีตปู่คลองย่า
ปู่ย่าเป็นที่รักและเคารพของลูกหลาน เปรียบประดุจด้วยเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานดังคำโบราณอีสานว่า
อันปู่ย่านั้นหากฮักลูกหลานดั่งเดียวหลาย
ทั้งตายายก็ฮักลูกหลานหลายดั่งเดียวกันนั้น
ลูกหลานเกิดทุกข์ยากไฮ้ได้เพิ่งใบบุญ
คุณของปู่ย่าตายายหากมีหลายเหลือล้น
ควรที่ลูกหลานทุกคนไหว้บูชายอยิ่ง
เปรียบเป็นสิ่งสูงยกไว้ถวยเจ้ายอดคุณ
บุญเฮาหลายแท้ที่มีตายายปู่ย่า
เพราะว่าเพิ่นเป็นฮ่มให้เฮาซ้นอยู่เย้น ฯ
๑๐)ฮีตเฒ่าคองแก่
เป็นแนวทางของคนชราหรือผู้สูงอายุ ธรรมเนียมของชาวอีสานมักจะเคารพผู้อาวุโสในด้านต่างๆอาจเป็นด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิเป็นต้น ดังนั้นคนเฒ่าคนแก่จะควรเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกหลานทั้งในด้ายความประพฤติและด้านจิตใจ ดังคำโบราณอีสานว่า
เป็นผู้เฒ่าให้ฮักลูกหลานเหลน เป็นขุนกวนให้ฮักการเมืองบ้าน
สมสถานเบื้องเฮิงฮมย์ถ้วนทั่ว อย่าได้ฮักผิ่งพุ้นซังพี้บ่ดี
อันว่าเฒ่าบังเกิดสามขานั้นฤา หมายถึงคนวัยสูงผู้ควรถือหน้า
ย้อนว่าเอาตนเข้าถือศีลฟังเทศน์ เถิงกับสักค้อนเท้าไปด้วยใส่ใจ
ชาติที่เฒ่าบ่ฮู้วัตรคลองธรรม ปาปังแถมซู่วันเวียนมื้อ
เถิงว่าวัยชราเฒ่าหัวข่าวแข้วหล่อน อายุฮ้อนขวบเข้าบ่มิผู้นับถือ แท้แหล่ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น