๑๓. ชนะสันทะยอดคำสอน
วรรณกรรมเรื่องนี้น่าจะเป็นตอนที่พระเจ้าปัสเสนทิโกศลพร้อมกับพระนางมัลลิกาเทวีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทรงทูลถามในเรื่องพระสุบินนิมิตพระผู้มีพระเจ้าทรงตรัสพยากรณ์และก็ทรงสั่งสอนว่า “ ปางนั้น ปัสเสนเจ้าทงศีลบ่ให้ขาด มีศรัทธาเที่ยงมั่นบ่ไลม้างทอดทาน กับทั้งมัลลิกแก้วเทวีเทียมพ่าง ปางนั้น ศีลห้าตั้งแลงเช้าบ่ได้ไลกับทั้งศีลแปดตั้งเพียรแต่งวันอุโป122” เป็นต้น ในวรรณกรรมเรื่องนี้ท่านเจ้าคุณพระอริยานุวัตร เขมจารี ได้ปริวรรตเป็นภาษาไทยโดยโครงการของมหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒมหาสารคาม เป็นลักษณะเป็นเทศนาโวหาร ในเนื้อเรื่องได้แบ่งเป็นบั้นๆ(ตอน) เป็นเรื่องที่นักปราชญ์ของท้องถิ่นอีสานได้นำความเชื้อ จารีตประเพณีและคตินิยมในท้องถิ่นเข้ามาประมวลเป็นคำสอนเพื่อให้ชาวอีสานเป็นคนตั้งอยู่ในศีลธรรม ดังนี้คือ
๑๓.๑)บั้นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่พระเจ้าปัสเสนทิ์ ดังนี้คือ
อันว่าจอมราชาเหมือนพ่อคิงเขาแท้ จิ่งให้ไลเสียถิ้มอะคะติทั้งสี่ พญาเอย
โทสาทำโทษฮ้ายโกธากริ้วโกรธแท้เนอ จงให้อินดูฝูงไพร่น้อยชาวบ้านทั่วเมือง
ชาติที่เป็นพญานี้อย่ามีใจฮักเบี่ยงพญาเอย อย่าได้คึดอยากได้ของข้าไพร่เมืองเจ้าเอย
ละอะคะติสี่นี้ได้จึงควรสืบเสวยเมือง ทงสมบัติครองเมืองชอบธรรมควรแท้
อันหนึ่งจิตอ่อนน้อมคำฮ้ายแม่นบ่มี ปากกล่าวต้านคำอ่อนหวานหูแลนา
บ่เหล้นชู้เมียซ้อนเพิ่นแพง บ่คึดโลภเลี้ยวลักสิ่งเอาของเพิ่นนั้น
บ่ตั้วะบ่พางไผเพื่อนสหายกันแท้ บ่ฆ่าสัตว์ประสงค์เว้นอินดูสัตว์มากยิ่ง
บ่คึดโลภเลี้ยวจาต้านให้เบี่ยงความ บ่ลามกหยาบซ้าเกินฮีตครองธรรมแลนา
บ่กินสุราเหล้าเอาต้นเว้นขาด กรรมแปดจำพวกนี้ไผเว้นประเสริฐดี ฯ123
๑๓.๒) สอนให้แผ่เมตตาไปในสัตว์โดยไม่มีประมาณ ดังนี้คือ
ให้หยาดน้ำไปฮอดสัพพะสัตว์แท้เนอ ให้มันถองเถิงห้องอบายภูมิทั้งสี่
ฝูงสัตว์ตกอยู่ในอเวจีให้เกิดในเมืองฟ้า ให้หยาดน้ำไปเถิงเซื้อวงสาพ่อแม่แท้เนอ
เทวดาอยู่เทิงชั้นฟ้าอินทร์พรหมพร้อมซู่องค์ สัตว์ฝูงมีกระดูกแลไม่มีกระดูกพร้อม
กับทั้งเจ้าแม่นางธรณีฝูงหมู่ดินทรายไม้ ฝนลมฟ้ากลางหาวอากาศก็ดี
เมฆขลานางแก้วอสูรครุฑนาคก็ดีถ้อน อีกทั้งเผดยักษ์ฮ้ายฝูงหมู่ผีสางก็ดี
หิมพานต์สัพพะสัตว์หยาดน้ำไปเถิงถ้วน จิ่งอธิษฐานไปให้ยมภิบาลกุณฑ์ใหญ่
แผ่ไปฮอดสัตว์อยู่ใต้ในหม้อแผ่นแดงนั้น ทั้งสิบหกชั้นฟ้าเทวดาได้ซูซ่อย
แผ่ไปเถิงศัตรูเสี่ยวแก้วประสงค์ได้ฮ่วมบุญ ศีลทานสร้างกองบุญผายแผ่ แท้เนอ
เทียมดั่งแม่น้ำใหญ่กว้างบ่เขินขาดวังหั้นแล้ว ไผได้ทำบุญสร้างศีลทานทุกเช้าค่ำ
ยำแยงทานน้อมไหว้ตนเจ้าซิฮุ่งเฮืองแท้แล้ว ทานนั้นเฮาก็เคียงสอนให้ราชาฟังสน่อย
ต่อจากนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าได้นำเอาชาดกในอดีต มาเล่าให้พระเจ้าปัสเสนท์ฟังโดยมีเรื่องย่อว่าในอดีต ณ เมืองพาราณสี มีพระเจ้าพรหมทัตได้ปกครองบ้านเมืองอยู่ ต่อจากนั้นพระโพธิเจ้าถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระเหสีพญาพรหมทัต และมีพระนามว่า “ชนะสันทะราช” เมื่อทรงเจริญได้ ๑๖ ปีได้ทรงศึกษาจบไตรเพทศาตร์ที่เมืองตักสิลา และเมื่อพญาพรหมทัตสวรรค์แล้วพระองค์ก็ทรงขึ้นครองราชสมบัติแทนพระบิดาดังข้อความนี้ คือ “ กาลนั้น หลายปีล้ำราชาพญาพ่อ พระได้เถ้าแก่แล้วเลยเข้าสู่บุญชาวเมืองได้หดเจ้า เสวยเมืองแทนพ่อ ชื่อว่า พญาชนะสันทะราชเจ้า ลือล้ำทั่วแดน เจ้าเอย เป็นต้น
๑๓.๓) สั่งสอนให้ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมดังนี้คือ
มีทานศีลตั้งไว้ในเจ้าบ่ได้ไล กับทั้งเมตตาตั้งไว้กรุณาสิบสิ่งนั้นแล้ว
ตัปปังพร้อมอะโกธังบ่เชิงเคียด อะวิหิงสาบ่กล่าวต้านคำส้มใส่ไผ
อะวิโรธนังให้มีใจตั้งต่อ มุทุตาช่างเว้าอุเปกขาเจ้าบ่ห่อนไห
พระก็ทศราชแท้ตั้งอยู่ตามคอง บ่มีใจโมโหแก่เขาขุนข้า
๑๓.๔) พระยาสันทะราชสอนให้รู้จักการให้ทาน
ไผมีเงินคำแก้วหวงแหนบ่ทานทอด บ่ให้ขาดแต่ละมื้อประสงค์ได้ทอดทาน
จักทุกข์จนในสงสารชาติซิมาหากหวังได้ เมื่อมรณังตายไปเกิดในวิมานแก้ว
ไผผู้มีของล้นเงินคำอนันเนกเจ้าเอย บ่ให้ทานพี่น้องคนนั้นบ่ห่อนดีแท้ดาย
อันว่าไผ้ผู้มีของล้นทานไปหลายสิ่งเจ้าเอย บาดว่าชาติหน้าพุ้นยังซิกว้างกว่าหลัง
ตายไปเกิดชั้นฟ้าทงแท่นวิมานคำพุ้นเอย ยูท่างนั่งเสวยความสุขอยู่เย็นหายฮ้อน
ไผผู้ทานไปแล้วบ่มีเสียจักสิ่งเจ้าเอย ชาตินี้บ่ได้อึดอยากไฮ้ไปหน้าก็ดั่งเดียว
ของเฮาทานไปแล้วบ่สูญเสียดายป่าว เจ้าอย่าได้ขี้คร้านในทานทอดกองบุญ
คันว่าตายไปภายลุนจักบ่กินแหนงโอ้ คำสอนพุทโธเจ้าหากเป็นจิงตั้งเที่ยง
ไผทำเพียรก่อสร้างบุญนั้นบ่ห่อนเสียเจ้าเอย 124
๑๓.๕) สอนให้รู้จักการประหยัดและการพึ่งตัวเอง
แม่นว่าทำอันใดได้ให้โดยตนดีชอบเจ้าเอย ให้ค่อยทำเพียรเที่ยงไว้ตามคำพระเจ้าสั่ง
คันว่ามีเงินบาทเบี้ยให้เมี้ยนหี่พอสลึง ให้ค่อยดอมเก็บมัดใส่ถงถนอมไว้
เมื่อเฮาหอมเก็บแพงไว้หลายทีถงซิต่ง ใจอย่าเห็นม่อซื้อขายเหล้นจ่ายกินแท้เนอ
คันเฮามีเงินคำแก้วเอาอันได้ได้ง่ายๆจิงดาย แม่นซิซื้อรถเกวียนช้างม้าก็ยังได้ดั่งใจ
๑๓.๖) สอนให้เรียนวิชาชีพต่างๆ
ให้พากันเฮียนแต้มลิงลายทุกสิ่ง เฮียนสร้างพระพุทธฮูปเจ้าบุญค้ำสู่สวรรค์
เฮียนยาปัวพยาธิสัพพะสิ่งโรคา จักเฮียนเป็นหมอฮูฮาเลิกยามก็ทวายคิ้ว
ศาตรศิลป์มนต์กล้าอาคมคนได้เพิ่งก็ดี แม่นจักเฮียนคงฆ้อนคงหลาวง้าวหอก
เฮียนทางแปลงเฮือนซานผาสาทสูงเสาตั้ง เฮียนในคำสอนเจ้าองค์พุทโธสอนสั่ง
จักเป็นช่างหล่อปั้นตีหม้อแต่งไห ชื่อว่าศาตรศิลป์ในพื้นไผเฮียนประเสริฐ
ไผอดสาเฮียนได้แล้วผญาล้ำฮุ่งเฮืองแท้ดาย
๑๓.๗) สอนหญิงให้รู้จักเรียนการเรือน
ชาติที่เป็นหญิงนี้ให้เฮียนคองดอมเพิ่น เป็นหญิงเจ้าอย่าได้ขี้คร้านให้เฮียนฮู้ฮีตหญิง
เป็นหญิงนี้ให้แปงโสมอ้วนอ่อนจิงดาย ปากกล่าวต้านให้เสียงม่วนหวานหู
เมื่อจักเดินไปมาให้ค่อยเจียมโตเนื้อ เฮียนดีดฝ้ายให้นวลนุ่มเป็นผง
คันว่าเอาหลาเข็นก็จิ่งงามเลิงล้วน แล้วเล่าเฮียนเข็นฝ้ายเสมอดีเลิงแลบดีดาย
เฮียนต่ำผ้าพร้อมพ่ำพันแนว ทั้งผืนดำแดงลายนุ่งทงตนเอ้
เฮียนหยิบถักฮ้อยปักแส่วไหมคำพุ้นเอย แต่งเป็นลายเคลือดอกดวงงามย้อย
เก็บขิดลายผ้าแดงเหลืองไหมยอด ผ้าควบพล้อยประสงค์ย้อมคลั่งเข
เฮียนในพืมซาวห้าประสงค์หาไหมยอด ทั้งหยิบหมอนลายเสื่อมพร้อม
ตนเจ้าให้หมั่นเฮียน
๑๓.๘) บั้นสอนให้รักษาศีลห้า125
ให้ค่อยเอาใจตั้งทงศีลอันประเสริฐแท้เนอ ให้มีศีลห้าตั้งในเนื้ออย่าได้ไลนั้นเนอ
ตั้งแต่ปาณาให้เป็นศีลตัวที่หนึ่ง อย่าฆ่าสัตว์หมู่เนื้อให้ตายม้วยมิ่งมรณ์
อทินนาทานนั้นอย่าเอาของท่าน หากเป็นศีลขนาดแท้ประมวลไว้ถ้วนสอง
กาเมนั้นอย่าไปแสวงเล่นเที่ยวซมเมียท่าน พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ศีลข้อที่สามท่านเอย
มุสานั้นอย่าไปกล่าวต้านคำพางตัวะล่าย ศีลตัวสี่นี้ให้ตนเจ้าจื่อจำ
สุราเมรัยนั้นเป็นศีลแก้วเบ็ญจาอันประเสริฐ อย่ากินเหล้ามัวเล่นซิบาปหนาท่านเอย
จาในบทศีลห้าโยติกาไว้ก่อน ต่อจากศีลห้านี้พระองค์เจ้าเทศนาแท้แล้ว
๑๓.๙) บั้นสองสามีและภรรยาให้รู้จักหน้าที่ของตน
ญิงใดเป็นเมียแล้วเอาใจผัวสองส่วน อย่าได้จาสะหาวโอดอ้างคำฮู้กว่าผัว
จักทำอันใดให้ถามผัวดูก่อนนางเอย ผัวเมียกันพร่ำพร้อมตนเจ้าจิ่งค่อยทำ
เวียกเฮือนนั้นยอมอบแปงสร้าง ไผผู้ทำดังนี้ชายนั้นประเสริฐคนเจ้าเอย
เป็นเมียให้ฟังผัวสอนสั่งแท้เนอ อย่าลื่นด้ามหละหาวเว้าลื่นผัว
ผิดถืกไว้คุณยิ่งผัวตนแท้ดาย แสนจักทำบุญสร้างกินทานทุกสิ่ง
ผัวเมียใจพ่ำพร้อมกันแท้ก็จิ่งดีนั้นแล้ว ยามเมื่อผัวไปค้าหาเงินทางอื่น
เอาสาดหมอนผัวห่อไว้บูชาแล้วจึงนอน เถิงวันศีลให้สมมาผัวเทียนธูป
ก้มกราบตีนแล้วไหว้เมียแก้วจิ่งนอน ผัวนอนสูงให้เมียแพงนอนต่ำ
เมื่อผัวนอนก่อนแล้วเมียแก้วจึงค่อยนอน เมียตื่นก่อนแท้ผัวนั้นตื่นทีหลังนางเอย
อดสาห์เพียรผัวแก้วแลงงายเช้าค่ำแท้เดอ ผัวพามั่งมีเที่ยงแท้เมียแก้วให้จื่อจำ126
๑๓.๑๐) บั้นสั่งสอนให้รู้ธรรมเนียมของสงฆ์ ดังนี้ คือ127
คันเจ้าบวชแล้วให้ตั้งต่องคองวินัยแท้เนอ ให้พ่ำเพ็งคองสงฆ์อย่าไลมายม้าง
อดสาทำเพียรสร้างภาวนาอย่าได้ขาด ปาริสุทธิศีลเที่ยงหมั้นแลงเช้าอย่าให้หมอง
อันนี้จาในห้องคองสงฆ์แสวงเทศน์ เป็นบุญเขตเที่ยงแท้ในพื้นแผ่นดินเจ้าเอย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น