วรรณกรรมประเภททั่วไป
คือวรรณกรรมที่ไม่อาจจะจัดกลุ่มในประเภทหนึ่งประเภทใดได้ เพราะการสร้างสรรค์วรรณกรรมเหล่านี้ขึ้นมาด้วยมีจุดประสงค์เฉพาะด้าน คือส่วนใหญ่จะใช้ในด้านพิธีกรรม ดังนั้นวรรณกรรมประเภททั่วไปนี้จึงเป็นลักษณะคำสู่ขวัญต่างของชาวอีสานที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานเพื่อสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีตลอดถึงคติความเชื่อพื้นเมืองของอีสาน แสดงถึงความห่วงใยและความหวังดีในโอกาสที่มีผู้มาเยือนถิ่นของตนเอง หรือมีคนในท้องถิ่นนั้นที่จากกันไปนานๆก็จะมีพิธิบายศรีสู่ขวัญให้ เพื่อเป็นจิตวิทยาในการสร้างกำลังใจให้แก่กันและกัน ส่วนผู้ที่ทำเรียกว่า หมอขวัญชึ่งจะเป็นผู้ที่ชาวบ้านเคารพนับถือและสามารถกล่าวคำสู่ขวัญได้ยาวๆและไพเราะให้คติธรรมแก่ผู้สู่ขวัญและญาติสนิทมิตรสหาย บทสู่ขวัญส่วนมากจะผสมผสานระหว่างพุทธปรัชญากับอีสานปรัชญาเข้าด้วยกัน โดยลักษณะคำสู่ขวัญก็แบ่งไปตามลักษณะบุคคล คือสู่ขวัญเด็ก สู่ขวัญหนุ่มสาวหรือบ่าวสาวและคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่สบายเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวผู้สู่ขวัญนั้นเอง ดังนี้คือ
๑) การสู่ขวัญเด็ก
เป็นพิธีกรรมที่หมอขวัญสู่ขวัญให้เด็กนั้นเป็นลักษณะการยกเอาบุคคลสำคัญๆในวรรณกรรมอีสานมาเป็นแบบเพื่อให้เด็กทำตามแบบอย่างก็ได้หรือปลูกฝังค่านิยมตลอดถึงความเชื้อในเรื่องเทวนิยมให้แก่เด็ก เพราะเด็กเปรียบเหมือนผ้าขาวจะย้อมสีอะไรก็ได้ง่าย ดังนี้คือ
เจ้าอ่อนน้อยมาแต่แถน มาแต่แดนเมืองฟ้า
พระหน่อหล้าจอมไตร ภวนัยตกแต่งมาแต่แห่งดุสิต
จุติมาถือดาวฤกษ์ ลูกมาถืกยามราชาจุติมามนุษย์โลก
นับเป็นโชคของบิดามารดา เจ้าเป็นเอกในโลกาดั่งสีดาพระราม
มีฤทธิ์ดังพระอุปราชฤทธีอาจ ดั่งนารายณ์ไปทางใด๋คนอ่อนน้อม
ให้มีพร้อมดั่งพระอิศวร บรบวรคับคั่งให้ได้นั่งวิมานทอง
มีแนวฮองเป็นแท่น มีปัญญาแหล่นดั่งศรีธนญชัย
ปัญญาไวดั่งเสียวสวาสดิ์ ให้ฉลาดดั่งพระเวสสันดรฯ
๑) การสร้างค่านิยมในเรื่องความมีอำนาจแก่บุตรหลานดั่งนี้
ให้เจ้านั่งเป็นพระยา ให้เจ้าเป็นราชาครองราช
ให้เจ้าได้ปราสาทสามหลัง อยู่ในวังเจ็ดชั้นมีผู้ปั้นแต่งนำมา
คนไหลมาโฮมห่อเป็นต้นหน่อ พระบรมมีคนชมพอหมื่น
ให้หลื่นคนทั้งหลาย ทั้งหญิงชายนบนอบ130
๒) ค่านิยมในด้านผู้สืบศาสนาว่า
ใหญ่พอบวชพ่อสิให้บวช ให้ท่องสวดคำภีร์
เฮียนบาลีค่ำเช้า ครองพระเจ้าศีลทาน131
๒) การสู่ขวัญบ่าวสาว
การสู่ขวัญบ่าวสาวในพิธีแต่งงานนับว่ากวีผู้ประพันธ์เป็นผู้ฉลาดนำเอาหลักฮีตผัวคองเมียเข้ามาใส่ไว้ด้วยตลอดถึงผญาภาษิตในการสอนอย่างเหมาะแก่กาลเวลาเพราะบ่าวสาวสามารถจดจำนำเอาไปใช้ได้เลย เป็นการวางหลักการเป็นสามีภรรยากันด้วยหลักศีลธรรม เพราะความรักจะหยั่งยืนไปได้ทั้งสองฝ่ายย่อมปรับทัศนะคติของตนเองให้เข้ากันได้ด้วยหลักฮีตผัวคองเมีย เป็นการสั่งสอนของหมอขวัญที่กล่าวให้สติแก่คู่บ่าวสาวในการครองเรือนนั้นมีอย่างไร ควรปฏิบัติต่อญาติทั้งสองฝ่ายอย่างไร และการที่ได้เป็นสามีภรรยากันนั้นก็ด้วยบุพเพสันนิวาส ดังนี้คือ
๑) กล่าวถึงหลักบุพเพสันนิวาสว่า
เป็นบุญเก่าเฮาทั้งสอง จั่งมาครองเป็นคู่
ได้มาอยู่โฮมกัน อยู่หลายวันตกแต่ง
พระบรมเพิ่นตกแต่ง เกิดคนแห่งมาเห็นกัน
สายสัมพันธ์บุพเพสันนิวาส ลงมาจากเครือเขากาด132
๒) กล่าวสอนให้รู้จักฮีตผัวคองเมีย
ผัวเมียกันฮักห่อ คือผัวก่อเมียพาย
ไปทางใด๋ให้เจ้าบอก ให้เจ้าออกทางประตู
อย่าซูลูเขยสะใภ้ให้เจ้าได้บุตตา คนตามมาบุตตีดอก
คำสอนบอกจงจดจำ เอาพระธรรมมาซู่ส่วย
ให้เจ้าเว้าค่อยๆอย่าเว้าแฮง สองจอมแพงให้ฮักเลิศ 133
สอนหน้าที่ของสามีที่ดี
ทุกคนในครอบครัว หวังเผิ่งผัวผู้ออกหน้า
เจ้าอย่าได้ตามหลังเมีย เฮ็ดเอียเคียเอียเคียคือผู้แม่
ชายบ่แท้ครอบครัวจน ให้เจ้าเป็นชายแท้ให้ผาบแพ้ทุกประการ
ใจห้าวหาญคือจอมปราชญ์ สร้างเคหาสน์ให้ฮุ่งเฮือง
สิบหัวเมืองมาช่วยค้ำ ทุกค่ำเช้าให้เจ้าอยู่สวัสดิ์
เป็นเศรษฐีบ่ไฮ่ ให้เจ้าได้ดังคำปรารถนา
สอนหน้าที่ของภรรยาที่ดี
อย่าประมาทชายที่เป็นผัว ให้เกรงกลัวคือพ่อคือแม่
อย่าข้องแหว่ชายอื่นบ่ดี หน้าที่มีให้เจ้าตกให้แต่ง
ให้เจ้าแต่งภาชน์แลงภาชน์งาย อย่าเบิ่งดายนิสัยขี้คร้าน
ให้ชาวบ้านติฉินนินทา สมบัติมาหนีไปเหมิดจ้อย134
๓) สอนให้รู้จักคองลูกเขย
ผู้เป็นผัวอย่าแข็งคำเว้า เห็นพ่อเฒ่าแม่เฒ่าให้ยำเกรง
ผู้เป็นเขยอย่าเสงเสียง ปากอย่าไปคากคำจา
ผู้เป็นผัวให้ฮักเมียจนแก่ ให้คือแม่ของโต
อย่าพาโลเลาะบ้าน อย่าขี้คร้านนอนเว็น
อย่าไปเห็นสาวแก่ อย่าไปแก่กว่าวงศ์
อย่าไปโกงใส่โคตร อย่าเว้าโพดคันเห็น
เฮ็ดบ่เป็นให้ถามไถ่ อย่าไปใหญ่กว่าลุง
อย่าไปสูงกว่าป้า อย่าไปด่าวงศ์วาน
อย่าไปพาลพี่น้อง อย่าไปฟ้องซุ่มแซง
๔) สอนให้รู้จักฮีตสะใภ้
ผู้เป็นเมียอย่าแข็งปากเว้า ตื่นแต่เช้าก่อนผัวโต
อย่าเสียงโวสุยเสียด อย่าไปเคียดไววา
คันไปไฮ่กะฮีบมา คันไปนากะฮีบต่าว
เห็นผู้บ่าวอย่าแซนแลน ยินเสียงแคนอย่าไปฟ้อน
อย่าไปย้อยใส่เสียงกลอง อย่าจองหองใส่ปู่ย่า
อย่าไปด่าอาวอา คันไปมาให้คมเขี่ยม
อย่าให้เสื่อมซุมแซง อย่าไปแฮงฟืดฟาด
อย่าประมาทปู่ย่าโต อย่าไปโส่ความเก่า
อย่าไปเล่าความเดิม อย่าไปเสริมผู้อื่น
อย่าไปตื่นเสียงคน อย่าไปวนของเผิ่น
คันเผิ่นเอิ้นจั่งขาน คันเผิ่นวานจั่งส่อย
ให้ไปค่อยมาค่อย เห็นโคตรเห็นวงศ์
อย่าไปโกงเถียงพ่อเถียงแม่ เห็นคนแก่ปากเว้าจาไข
อย่าจัญไรป้อยผีป้อยห่า อย่าไปด่าพี่น้องทั้งผัว
อย่าเมามัวสุราเบี้ยโบก ยามขึ้นโคกหาฟื้นหาตอง
อย่าเสียงหองร้องเพลงแอ๋นแอ่น อย่าได้แล่นป๋าหมู่ป๋าฝูง
คันเห็นลุงให้ว่ากะบาด อย่าได้ขาดความเว้าขานไข
ไปทางใด๋อย่าได้ช้า คันเห็นป้าให้ว่าคือลุง
อย่าหัวสูงไปหมอบมาหมอบ อย่าซู่ลูเอาของบ่บอก
อย่ากลับกลอกปู่ย่าวงศา ยามไปมาให้วนเวียนแว่
ฮักคือพ่อคือแม่ปู่ย่าของโต อย่าพาโลต๋อแหลหลอนหลอก
อย่าไปบอกใช้สิ่งเอาของ ผิดูธรรมนองครองของลูกใภ้
กว่าสิใดลูกเผิ่นมาแยง อย่าเว้าแข็งคำหวานโอนอ่อน
ว่ามาเยอขวัญเอย 135
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น